ผมค่อนข้างจะติดตามสถานะการณ์ โควิด 19 อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มแรก และมีหลายๆ เว็บไซด์ที่รายงานยอดการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง เว็บไซด์แรกๆ ที่เ...
ผมค่อนข้างจะติดตามสถานะการณ์ โควิด 19 อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มแรก และมีหลายๆ เว็บไซด์ที่รายงานยอดการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง เว็บไซด์แรกๆ ที่เข้าไปดูจะเป็นเว็บไซด์จีน ณ เวลานั้นจะรายงานยอดการติดเชื้อ การเข้ารับรักษา และการหายป่วย ทุกๆ ประเทศ ถือว่าเป็นเว็บไซด์อันดับต้นๆ ที่ผมให้ความน่าเชื่อถือสูงสุด
ต่อจากกันก็จะพบเว็บไซด์ต่างๆ ที่รายงานยอดติดเชื้อด้วยรุปแบบการนำเสนอที่หน้าตาอาจจะดูแตกต่างกันออกไป และผมก็ได้ทำการ bookmark เว็บไซด์เล่านั้นไว้เป็นจำนวนมาก มากจนเริ่มรู้สึกว่า มันน่าจะมากเกิน อีกทั้งเมื่อดูในรายละเอียดแล้วจะพบว่า แต่ละเว็บไซด์มียอดที่ไม่ตรงกัน
เมื่อการ update ยอดที่ไม่ตรงกันย่อมทำให้เกิดปัญหา เพราะในช่วงแรกๆ ที่มีการรายงานสถานะการณ์รายวันของประเทศไทย ได้อ้างถึงยอดติดเชื้อที่ไม่ตรงกับเว็บที่ผมเข้าไปดูในทุกๆ วัน ทำให้เกิดข้อขัดแย้งบางอย่าง จนกระทั่งผมได้รับทราบว่า ของไทยจะอ้างอิงจาก worldometers ซึ่งผมก็ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่าตรงกับที่ไทยรายงาน เป็นอันว่า ผมก็จะใช้ที่อ้างอิงเช่นเดียวกัน
ถามว่าซีเรียสหรือเปล่าที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ worldometers ต้องตอบว่า ไม่ซีเรียสเลยครับ เพราะแต่ละที่ก็รายงานยอดไม่เหมือนกันซักเท่าไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันจนมีนัยยะ ซึ่งเว็บ worldometers ก็เป็นอีกเว็บไซด์หนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้เข้าไปดูอัตราของประชากรโลกแบบ real time จากเว็บนี้มาแล้ว
สถานการณ์ก่อนหน้านี้ดูท่าน่าจะดี แต่ช่วง 2-3 สัปดาห์หลัง หลังจากที่มีการประท้วงที่สหรัฐอเมริกา ดูเหมือนสถานการณ์จะแย่ลง ซึ่งไม่ผิดความคาดหมายซักเท่าไร และก็มีการระบาดหลังใหญ่ที่ประเทศบราซิลในช่วงเวลานั้น
ผมเฝ้าดูว่าประเทศอียิปต์น่าจะเป็นประเทศต่อไปที่มีการแพร่ระบาดสูงสุดที่ทวีปแอฟริกา แต่ผิดคาด กลับกลายเป็นว่า ประเทศแอฟริกาใต้ มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะยาน สถานะการณ์น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก
ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดของแต่ละทวีปมีดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กรกฏาคม 2563)
ยุโรป - รัสเซีย
อเมริกาเหนือ - สหรัฐอเมริกา
เอเชีย - อินเดีย
อเมริกาใต้ - บราซิล
แอฟริกา - แอฟริกาใต้
โอเซียเนีย - ออสเตรเลีย
เขตที่มีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดก็คือ โอเซียเนีย
ถามว่ามันเข้าสู่ระลอกที่สองของการแพร่ระบาดหรือยัง ถ้าดูจากกราฟ log scale แล้วต้องตอบว่ายัง แต่เป็นการมองแบบโดยรวมทั้งโลก แต่ถ้าเรามองว่าระลอกแรก เป็นที่ประเทศจึน จากกราฟด้านขวา เราจะเป็นกราฟพุ่งทะยานในช่วงแรก การติดเชื้อส่วนใหญ่ เกือบ 100% อยู่ที่ประเทศจีน จนมีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก กราฟเริ่มพุ่งทะยานอีกครั้ง ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นระลอกที่สองก็อาจจะได้ แต่คนทั้งโลกส่วนใหญ่จะยังนับการแพร่ระบาดในระลอกปัจจุบันว่าระลอกที่ 1 เพราะระลอกแรกที่อยู่ที่จึนยังถือว่าเป็นการระบาดในวงจำกัด
แนวโน้มของกราฟยังไม่พุ่งทะยานจนการแพร่ระบาดเข้าสู่ระลอกที่ 2 ก็จริง แต่จะเห็นว่าเส้นกราฟเริ่มมีความชัน เนื่องจาก log scale ไม่ใช่กราฟ scale แบบ linear ที่เราคุ้นเคย ถ้าสถานะการณ์ที่ควบคุมได้ เส้นกราฟจะต้องไม่ยกขึ้น หรือเป็นเส้นตรง และมีแน้วโน้มที่จะลดลง
สำหรับบางประเทศ อาจจะพูดได้ว่า น่าจะเข้าสู่ระลอกที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิธีต่างๆ ที่แต่ละประเทศใช้ก็อาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละปัจจัยของแต่ละประเทศ สิ่งที่หลายๆ ประเทศเป็นห่วงกังวลควบคู่กันไปนั่นก็คือ เศรษฐกิจ อะไรถูก อะไรผิด มันคงเป็นเรื่องที่พูดกันยากพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าประเทศไทยค่อนข้างโชคดีที่สถานะการณ์ดูแล้วน่าจะพ้นวิกฤติไปแล้ว เหตุผลหลักๆ ก็คือ คนไทยตื่นตัว และใส่หน้ากากกันทุกคน และการวางมาตราการอย่างเข้มงวดของทางรัฐก็มาในจังหวะที่เหมาะสม ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในประเทศลดลงจนเหลือศูนย์
ผมยังคิดว่า ถ้ายังใช้วิธีการบริหารประเทศโดย สส. แบบเดิมๆ ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ ทำให้ผมคิดว่า การปกครองที่หลายๆ ฝันไว้ในเรื่องของประชาธิปไตย คือ คำตอบ เดียวอย่างนั้นหรือสำหรับเมืองไทย ถ้าใช่มันคงไม่ใช่ประชาธิปไตยในแบบที่เป็นอยู่ หรือที่ผ่านมา เพราะถ้าเกิดวิกฤติที่รุนแรงอะไรบางอย่างขึ้นอีก ประชาธิปไตยแบบเดิมๆ ไม่น่าจะแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน
COMMENTS