ผมเคยเขียนบล็อกอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นบล็อกที่ค่อนข้างตั้งใจเขียน ต้องใช้เวลาเรียบเรียง และทำรูปภาพขึ้นมาเพื่อให้ได้บทความที่มีคุณภาพ แต่สุดท...
ผมเคยเขียนบล็อกอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นบล็อกที่ค่อนข้างตั้งใจเขียน ต้องใช้เวลาเรียบเรียง และทำรูปภาพขึ้นมาเพื่อให้ได้บทความที่มีคุณภาพ แต่สุดท้ายโดน copyไปทั้งหมด หลายๆ ครั้งก็รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะเขียนอะไรที่มีหลักการมากนัก แต่ก็ช่างเถอะ มันทำอะไรไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถป้องกันได้
จริงๆ แล้วก็มี script บางตัวที่สามารถป้องกันการคลิ๊กเมาส์ขวาเพื่อ copy บทความ หรือรูปภาพได้ แต่ถ้าคนเราคิดจะทำก็ยังมีหนทางที่จะทำได้อยู่เหมือนเดิม ไม่สามารถป้องกันได้จริงๆ
การ copy บทความน่าจะเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำบล็อก หรืออาจจะเป็นพวกเว็บใหญ่ๆ ที่ต้องการให้มีเนื้อหาที่ update อยู่ตลอดเวลา อันนี้น่าเกลียดมาก เพราะเว็บใหญ่ๆ อันดับค่อนข้างดี ถ้า copy บทความจากเว็บเล็กๆ ไปแล้ว ก็เหมือนกับทำลายเว็บเล็กๆ นั้นไปด้วย
เราไม่สามารถป้องกันมันได้จริงๆ แม้กระทั่งระดับประเทศ ระหว่างประเทศก็ยังมีประเด็นการ copy กันอยู่ ยกตัวอย่างเรื่องการ copy เทคโนโลยี หรือการละเมิดอะไรต่างๆ และมีให้เห็นเป็นคดีความกันอยู่บ่อยๆ แต่การ copy เทคโนโลยี จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างชัดเจน และถ้าหากมีการจดสิทธิบัตรด้วยก็สามารถฟ้องร้อง และเรียกร้องค่าเสียหายได้ต่างจากบทความที่ไม่คงสามารถทำได้ หรือถ้าทำได้ก็อาจจะยากมาก
แต่สิ่งที่สามารถฟ้องร้องกันได้ที่เห็นกันทางอินเตอร์เน็ตก็คือ รูปภาพ ซึ่งรูปภาพมีการขายกันแบบเป็นธุรกิจ มีองค์กร มีฝ่ายติดตาม ทนาย ซึ่งมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน เพราะรุปภาพมันค่อนข้างจะ unique คงยากที่จะหาคนที่ถ่ายรูปได้เหมือนกันเป๊ะ ๆ อย่างน้อย แสงและสี ย่อมต่างกันบ้าง ถึงแม้องค์ประกอบของภาพจะเหมือนกันก็ตาม
แต่สำหรับบทความมันค่อนข้างพิสูจน์อยาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สไตล์การเขียน รูปแบบ สำนวนของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ถ้าจะพิสูจน์กันจริงๆ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ที่บอกว่าสามารถพิสูจน์ได้ก็คือ ให้คนที่เขียนงานต้นฉบับ มานั่งเขียนบทความเทียบกับคนที่คัดลอกไปจะพบว่า สไตล์การเขียนไม่สามารถคัดลอกกันได้ง่ายๆ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ระดับหนึ่ง
การที่ผมนั่งเขียนอะไรไปเรื่อยเปื่อยด้วยตัวเอง มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง และการว่างเว้นจากการทำบล็อกมาหลายปี ก็เลยต้องมาตั้งหลักกันใหม่ ในวันแรกๆ ที่เขียนก็นึกอะไรไม่ค่อยออก พอผ่านมาซักอาทิตย์หนึ่งก็สามารถนั่งเขียนได้เหมือนเดิม
ผมใช้เวลาในการเขียนเรื่องราวต่างๆ ไม่มาก ถ้าไม่ต้องหาเอกสาร หรือการอ้างอิงอะไรก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็เสร็จแต่ละเรื่องที่ต้องการเขียน ระหว่างที่ผมเขียนผมก็นึกไปเรื่อยๆ ว่าจะเขียนอะไร ยังไง เพราะบางวันมีเฉพาะหัวข้อที่จะเขียน หรือเจออะไรมาก็จะเอาหัวข้อนั้นมาเขียน แล้วก็เขียนออกมาในตอนนั้นเลยโดยไม่ได้เตรียมการอะไรมากขอแค่ให้มีหัวข้อที่เราต้องการจะเขียนเท่านั้น
สำหรับบล็อกนี้ ซักระยะหนึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยน theme หรืออะไรต่างๆ เพิ่มเติม แต่อยากให้มีบทความเยอะซักหน่อยจะได้จัดหน้าตาบล็อกให้ดูดีได้ง่ายหน่อย
ถ้าใครจะ copy ผมอีกก็ตามสบาย แต่อยากจะขอให้ใส่เครดิตให้หน่อยเท่านั้นเอง เพราะยังไงผมก็คงห้ามการ copy ไม่ได้จริงๆ
COMMENTS