รายการตาสว่างคืนวันที่ 5 พฤษจิกายน 2552 ป๋าเทพ โพธิงามถูกศาลตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลายและอยู่ในขั้นตอนพิทักษ์ทรัพย์ คดีล้มละลายจะผ่านขั้นตอน...
รายการตาสว่างคืนวันที่ 5 พฤษจิกายน 2552 ป๋าเทพ โพธิงามถูกศาลตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลายและอยู่ในขั้นตอนพิทักษ์ทรัพย์ คดีล้มละลายจะผ่านขั้นตอนการพิจารณา 2 ศาลคือศาลชั้นต้นกับศาลฎีกาเท่านั้น ต่างจากคดีอื่น ๆ ที่จะมีศาลอุทรณ์(จากคำกล่าวของทนายร่วมรายการ) ในส่วนนี้ผมก็เพิ่งจะทราบเหมือนกัน หลาย ๆ คำพูดจากผู้ร่วมรายการทำให้ผมได้ความรู้และแง่คิดหลาย ๆ อย่าง
ผมเข้าใจความรู้สึกของป๋าเทพ ณ ขณะนี้ ในความไม่เข้าใจกับตัวบทกฏหมายที่ดูเหมือนจะเขียนขึ้นมาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมากกว่าคุณธรรมและเมตตาธรรมที่ควรจะมีให้แก่กัน เป็นเพราะว่าป๋าเทพเป็นคนของประชาชน หลาย ๆ คนเกิดความเห็นใจและพยายามจะเข้าใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"การมีสติตั้งรับกับปัญหาคงเป็นเรื่องยากเมื่อเกิดความขัดแย้งบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจและยังไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่เราหวังว่าจะได้รับ"
แต่ก็นั่นแหละครับ กฏหมายก็ย่อมเป็นกฏหมาย เพื่อการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ถึงแม้ว่ากฏหมายจะไม่ใช่เส้นขนานของกฏแห่งกรรม แต่การกระทำที่ผ่านมาย่อมสิงอยู่ในใจ ใครผิดใครถูกย่อมส่งผลไปสู่กฏแห่งกรรม
คนไทยมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้กฏหมาย(ประมาณเอาเอง) และมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ไม่เข้าใจกฏหมาย และคนจำนวนหนึ่งรู้ช่องโหว่ของกฏหมาย และอีกหลาย ๆ คนตกเป็นเหยื่อของผู้รู้กฏหมาย ปัญหาที่เป็นอยู่เกิดจากอะไร แล้วใครสามารถให้คำตอบได้ว่าทำไมคนไทยไม่สนใจเรื่องกฏหมาย สิ่งสำคัญที่สุดที่คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือมาตลอดนั่นก็คือ
“ มวลมนุษย์ ในโลกนี้ เกิดมาต่างมี ผลกรรมประจำตน
ไพร่ผู้ดี มีหรือจน มนุษย์ปุถุชน ไม่อาจหลุดพ้นตัณหา
คอยเบียดเบียนต่อกัน เรื่อยมา
ใช้เล่ห์ต่างๆนาๆ ไม่นำพาผลกรรมความดี ”
มนุษย์ เอย ! อย่าเห็นกงจักร เป็น ดอกบัว
“ กลัวเวรกรรม กันเถิดหนา แผ่ความเมตตาให้กันด้วยไมตรี
โปรดได้คิด ชีวิตคน ไม่เห็นใครจะพ้น หลีกไม่พ้น เป็นผี
ควรเร่งคิด สร้างสรรค์ สิ่งดี
เพิ่มบุญ เพิ่มบารมี เพราะความดี เหมือนเงาตามติดตัว ”
รอยโค รอยเกวียน วงเวียน แห่งกรรม ดี-ชั่ว ตัวเราทำเป็นกฏแห่งกรรม ของปุถุชน
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (1/3)
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (2/3)
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (3/3)
ผมเข้าใจความรู้สึกของป๋าเทพ ณ ขณะนี้ ในความไม่เข้าใจกับตัวบทกฏหมายที่ดูเหมือนจะเขียนขึ้นมาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมากกว่าคุณธรรมและเมตตาธรรมที่ควรจะมีให้แก่กัน เป็นเพราะว่าป๋าเทพเป็นคนของประชาชน หลาย ๆ คนเกิดความเห็นใจและพยายามจะเข้าใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"การมีสติตั้งรับกับปัญหาคงเป็นเรื่องยากเมื่อเกิดความขัดแย้งบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจและยังไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่เราหวังว่าจะได้รับ"
แต่ก็นั่นแหละครับ กฏหมายก็ย่อมเป็นกฏหมาย เพื่อการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ถึงแม้ว่ากฏหมายจะไม่ใช่เส้นขนานของกฏแห่งกรรม แต่การกระทำที่ผ่านมาย่อมสิงอยู่ในใจ ใครผิดใครถูกย่อมส่งผลไปสู่กฏแห่งกรรม
คนไทยมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้กฏหมาย(ประมาณเอาเอง) และมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ไม่เข้าใจกฏหมาย และคนจำนวนหนึ่งรู้ช่องโหว่ของกฏหมาย และอีกหลาย ๆ คนตกเป็นเหยื่อของผู้รู้กฏหมาย ปัญหาที่เป็นอยู่เกิดจากอะไร แล้วใครสามารถให้คำตอบได้ว่าทำไมคนไทยไม่สนใจเรื่องกฏหมาย สิ่งสำคัญที่สุดที่คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือมาตลอดนั่นก็คือ
"กฏแห่งกรรม"
ทำดีดีส่งให้เห็นผล ทำชั่วชั่วก็ดลชั่วให้ ชั่วดีดุจตราตรึงตีบอกไว้นา ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ด้วยกรรม
“ มวลมนุษย์ ในโลกนี้ เกิดมาต่างมี ผลกรรมประจำตน
ไพร่ผู้ดี มีหรือจน มนุษย์ปุถุชน ไม่อาจหลุดพ้นตัณหา
คอยเบียดเบียนต่อกัน เรื่อยมา
ใช้เล่ห์ต่างๆนาๆ ไม่นำพาผลกรรมความดี ”
มนุษย์ เอย ! อย่าเห็นกงจักร เป็น ดอกบัว
“ กลัวเวรกรรม กันเถิดหนา แผ่ความเมตตาให้กันด้วยไมตรี
โปรดได้คิด ชีวิตคน ไม่เห็นใครจะพ้น หลีกไม่พ้น เป็นผี
ควรเร่งคิด สร้างสรรค์ สิ่งดี
เพิ่มบุญ เพิ่มบารมี เพราะความดี เหมือนเงาตามติดตัว ”
รอยโค รอยเกวียน วงเวียน แห่งกรรม ดี-ชั่ว ตัวเราทำเป็นกฏแห่งกรรม ของปุถุชน
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (1/3)
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (2/3)
เทพ โพธิ์งาม@ตาสว่าง(คดีล้มละลาย) (3/3)
COMMENTS